2010-11-04

The Dog: ชิงหมาเถิด

Image: movie.mthai.com
ได้ชมภาพพยนต์เรื่องนี้แล้วไม่เสียชาติเถิดครับ ได้แง่คิดและความฮาของบทหนังที่ออกแนวจิกกัดสังคม และสะท้อนปัญหาต่างๆ ได้ดีทีเดียว สิ่งที่ผมได้ ขณะที่ดูหนังจบแล้วนั้น ยังค่อนข้างซึมซับได้ช้าครับ เพราะว่ารูปแบบขั้นตอนการนำเสนอมันเข้มข้น ในช่วงของท้ายเรื่อง ซึ่งเรื่องทั้งหมด นี้เกิดจาก "หมา" แค่ตัวเดียว ซึ่งมันเป็น "หมาหิมะ" ที่ประชาชนทั้งประเทศต่างก็รักและคลั่งใคล้ (หมายถึงหลินปิงหรือป่าวหว่า?)

หมาตัวนี้มันทำให้ คน 3 คน ที่มีความแตกต่างกัน ทั้งฐานะ การศึกษา และครอบครัว ผมเองจำชื่อในหนังไม่ได้นะครับต้องขออภัยด้วย ดูไปตั้งแต่เข้าโรง กว่าจะมาเล่าก็ลืมไปหมดแล้ว เอาเป็นว่าจะเรียกชื่อจริงๆแล้วกัน
"บอย ปกรณ์" เป็นลูกของนักการเมืองระดับชาติ ที่มีความเพียบพร้อมทุกอย่าง ยกเว้น!! ความอบอุ่น เขาเองพยายามเรียกร้องความสนใจจากผู้เป็นพ่อมาตลอด ซึ่งไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ตาม พ่อเขาไม่เคยสนใจ พ่อเขามัวแต่สนใจหมาหิมะ หมาที่สร้างชื่อ สร้างเงินให้เขาเป็นกอบเป็นกำ เพราะมันเป็นขวัญใจของมหาชน
"โก๊ะตี๋" คนตกงาน ที่ฉากแรกก็มาประท้วงหมา เพื่อเรียกร้องอะไรซักอย่าง ผมเองก็ยังไม่เข้าใจว่า ทำไมโก๊ะตี๋ถึงจงเกลียดจงชังหมาตัวนี้ หรือเป็นเพราะ เขาตกงาน เขาไม่ได้เงินชดเชย เขาจึงลำบาก แต่บ้านเมืองก็ไม่สนใจเขา ไปสนใจกับ "หมาแค่ตัวเดียว" ทำให้เขาแค้นหมาตัวนี้มาก
"มาริโอ้" เป็นเด็กไทยที่ได้เหรียญทองโอลิมปิก สาขาอะไรซักอย่าง จนเกือบได้ไปฝึกงาน หรือทำงานให้กับองค์การ นาซ่า เขามีครอบครัวที่สมบูรณ์กว่าคนอื่น มีพ่อที่ดูแล และเข้าใจ คอยให้กำลังใจเขาตลอด เขาเป็นคนที่เงียบๆ และชอบคิด ชอบทำอะไร ที่คนอื่นคาดไม่ถึง

วันที่ 3 คน ได้เจอกัน เรื่องวุ่นวายก็เกิดขึ้น เมื่อบอย กับโก๊ะตี๋วางแผนที่จะขโมยหมา แต่ก่อนที่จะได้กระทำการนั้น โอ้ก็ชิงหมาไปซะ ก่อน เขาแค่ใช้มือถือปิดวงจรของกล้องวงจรปิด แล้วก็เดินอุ้มหมาผ่านระบบรักษาความปลอดภัยออกไปได้อย่างง่ายดาย โอ้ขโมยหมาไปเพื่อจะถ่ายรูป และเขาก็จะเอากลับไปคืน ที่เขาทำเพื่อพิสูจน์ ให้คนยอมรับในความเจ๋งของเขา หรืออาจจะเป็นเพราะ ความไม่สนใจใคร ไม่ใส่ใจสังคม คิดจะทำอะไรก็ทำ ไม่ว่าคนอื่นจะเดือดร้อนอย่างไร แม้การกระทำของเขาจะดูไม่หนักหนามากนัก เหมือนเด็กที่ซุกซน แต่ก็ไม่น่าเอาเยี่ยงอย่าง 

บอย กับ โก๊ะตี๋ ก็ติดร่างแหนี้มาด้วย เมื่อพ่อของบอย ให้ลูกน้องจ้างมือปืนจอมโหดให้ออกตามล่าคนที่ขโมยหมา มือปืนคนนี้ก็คือพี่อ๊อฟ ผู้กำกับภาพยนต์เรื่องนี้นี่เอง เขาตามดมกลิ่นไปจนถึงบ้านของโอ้ บ้านของโอ้เองเป็นร้านเกมส์ พ่อของเขานั่งอยู่เครื่องในสุด กำลังนั่งเล่นเกมส์กับเด็กๆ ในร้าน ซึ่งสุดท้าย พ่อของโอ้ก็ถูกแทงด้วยตะเกียบจนตาย โดยที่ไม่มีใครในร้านเกมส์เห็นเหตุการณ์เลย

มันบอกอะไร? บอกว่าสังคมเราตอนนี้ขาดการดูแลเอาใจใส่ มีแต่คนเห็นแก่ตัว สนใจแต่เรื่องของตัวเอง เกมส์ของตัวเอง ไม่สนใจว่าคนอื่น คนรอบข้าง หรือคนที่เป็นเจ้าของร้านจะเป็นอย่างไร ความเห็นอกเห็นใจมันเหือดหายไปจากสังคมมนุษย์เสียแล้วหรือ


จากนั้นเขาสามคนก็ถูกตามล่ามาตลอด โก๊ะเองขอมาบ้าน มาหาลูกสาวของเขา โก๊ะเองดูจะเป็นตลก แต่พอเข้าถึงจุดดราม่า เขาก็ทำได้ดีจริงๆ เมียของโก๊ะเอง น่าจะทำงานอะไรซักอย่างที่ ใครเป็นแฟนก็คงไม่อยากให้ทำ ในหนังเองก็ไม่ได้เจาะจงว่าทำงานอะไร แต่ลูกของโก๊ะนั้น ก็อาจไม่ใช่ลูกโก๊ะ เพราะก่อนที่โก๊ะจะเมียคนนี้มา เพื่อนเขาก็ได้กันหมดทุกคน แต่ก็รักลูกคนนี้มาก มันทำให้เราเห็นความรับผิดชอบ เล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ ของสังคมที่ไม่ฟู่ฟ่า ไม่หรูหรา แต่มีหัวใจ เขาทำงานเพื่ออนาคตลูกคนนี้ ที่เขาเรียกน้องเงินชดเชย ก็คงเพราะลูกคนนี้ด้วยเช่นกัน

โก๊ะเอง ตอนแรกไม่ได้มีความคิดจะขโมยหมามาแต่แรก แต่เมื่อบอยเห็นโก๊ะมาด่าหมา โกรธเกลียดหมา เขาจึงเสนอเงิน เพื่อจ้างให้โก๊ะ ขจัดเสี้ยนหนามออกไปจากหัวใจเขา เพื่อให้พ่อกลับมาสนใจเขาบ้าง โก๊ะก็อยากได้เงิน เขาจึงทำ โดยไม่สนใจสังคม เฉกเช่นเดียวกับ โอ้ และ บอย

สิ่งที่เขาทั้งสามคนทำเป็น "ความเห็นแก่ตัวของคน" และผลที่ได้รับจากความเห็นแก่ตัว ความไม่ใส่ใจคนรอบข้าง อคติกับหมาตัวเดียว "ทำให้เรื่องหมาๆ ก็เป็นปัญหาระดับชาติ" สุดท้ายแล้ว มือปืนก็ตามเขาทั้ง 3 คนจนพบ และเขาก็ได้ตามฆ่า "ไอ้ 3 ตัว" ทีละคน ๆ จนสุดท้าย บอยได้ถามว่า แกจะตามฆ่าพวกเราทำไม อ๊อฟได้ตอบว่า "คนเราทุกคนต่างก็มีหน้าที่ของตัวเอง"

ทำให้เห็นว่า คนเราหากไม่รู้จัก "หน้าที่" และความรับผิดชอบของตัวเองแล้ว สังคมมันก็จะวุ่นวาย กับการไปทำหน้าที่แทนคนอื่น ละเลยหน้าที่ความรับผิดชอบของตัวเอง จนเสียไปทั้งระบบ

แล้วความจริงที่ทุกคนไม่รู้ก็คือ "หมาหิมะ" ที่อยู่นั่นเป็นของปลอม หมาตัวจริงนั้นตายไปตั้งแต่มาอยู่ได้เพียง 3 เดือน เนื่องจากมีโรคแทรกซ้อน ทำให้บอยต้องการบอกเรื่องนี้ให้ทุกคนได้รู้ ในวันที่เขาเอาหมาไปคืน วันที่เป็นวันฉลองวันครบรอบ ให้หมาตัวนี้ แต่เมื่อเขาเอามามาคืน เขาก็กลับพูดไม่ออก เมื่อมีเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ร้องเพลง happy birthday ให้กับน้องหมา เขาวางหมาลงและไม่พูดอะไรอีก

มันทำให้บอยเข้าใจถึง ความสำคัญของหมาตัวนี้ มันไม่ใช่หมาหิมะ แต่มันเป็นหมาที่สร้างรอยยิ้ม และความสุขเล็กๆ น้อยๆ ในสังคมที่หาความสุขที่แท้จริงได้ยาก อย่างเช่นปัจจุบัน ที่มีแต่คนละโมบโลภมาก อยากได้อยากมี แก่งแย่งชิงดีทุกวี่วัน ไม่มีใครลดราวาศอก มีแต่ต้องการเอาชนะ เรื่องหมาๆ มันก็เลยเป็นปัญหาระดับชาติ อย่างที่ว่าละครับ 

ฉากจบ สุดท้าย อ๊อฟ ก็หอบร่างที่บาดเจ็บเนื่องจากเขาโดนยิง ตามมาปิดบัญชีกับบอยตามหน้าที่ของเขาเอง ซึ่งตอนนี้บอยก็ได้รับคำชม ได้สิ่งที่เขาปรารถนามาตลอดชีวิตแล้ว นั่งคือความอบอุ่น ความใกล้ชิดจากพ่อของเขาเอง ที่พูดขอบใจที่เอาหมาหิมะมาคืน และมองหน้าเขาด้วยความยินดี

บทสรุปของหนังเรื่องนี้ อาจจะต่างกันตามความคิดในแต่ละแง่มุมของคน แต่อยากให้คิดว่า หนังก็คือหนัง ถ้าคนเรายังคิดอยู่กับอคติเดิมๆ ในใจ สิ่งใหม่ที่มันดี มีผลบวก มันก็จะไม่เกิด หนังเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "อย่าเห็นแก่ตัว อย่าเอาหัวคิด ไปติดกับเรื่องหมาๆ"